วันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561


NEED

คนเรามีความต้องการไม่เหมือนกัน บ้างต้องการเพียงแค่ปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิต บ้างก็ขยับขึ้นมาอีกหน่อยคือการศึกษา หน้าตาในสังคม หรืออาจจะเป็นของใช้ฟุ่มเฟือยที่ชีวิตนี้ไม่มีมันก็ไม่ตายแต่อย่างใด และแน่นอนผมก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องการของพวกนั้น

เมื่อก่อนผมมักจะคิดเสมอว่าแค่มีเงินซื้ออะไรก็ได้ ไหนใครบอกว่าซื้อความสุขไม่ได้ ผมบอกเลยว่าเงินซื้อได้จริงๆ คุณลองคิดดูนะคุณมีเงินในมือแต่คุณอยากกินข้าวและคุณก็ใช้มันกินข้าว หลังจากนั้นคุณก็อิ่ม ผมถามทีนะคุณมีความสุขไหม? ผมจะตอบแทนให้แล้วกันสำหรับผมมีความสุขมาก
แต่ผมมารู้ตอนนี้แล้วเงิน ไม่ใช่ความสุขที่ผมต้องการอีกต่อไป เมื่อผมมีมันทุกอย่างจนผมไม่อยากได้มันอีกแล้ว

สร้อยแขน?” ผมถามคนที่นอนอยู่ข้างๆ ด้วยความแปลกใจ ความเย็นเฉียบที่ข้อมือทำเอาผมเลิกคิ้วขึ้นมอง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มนั่นจ้องตาผมพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ ที่มักจะทำให้ผมเคลิ้มตามอย่างง่ายดายนั้นทำให้ผมต้องหลบตาไปทางอื่นและเลือกที่จะสนใจสร้อยแขนเส้นนี้แทน

ก็เห็นว่าเส้นเก่าใส่มานานแล้ว ป๊าก็เลยซื้อให้ไง” นี่ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ทำเอาผมหน้าร้อนขึ้นมา การที่อีกคนแทนตัวเองด้วยคำว่าป๊านี่แหละ

นานตรงไหนเพิ่งสองเดือนเอง” ผมบ่นเบาๆ ก่อนจะถอดมันออกแล้วนำมันกลับไปใส่กล่องของมันเหมือนเดิม ก่อนจะลุกขึ้นนั่งบนเตียงด้วยความเมื่อยล้าจากกิจกรรมเมื่อไม่ถึง 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อ่าวหรอ? ป๊าว่านานกว่านั้นอีกนะ ตอนแรก...” อีกคนยังพูดไม่ทันจบผมก็เอื้อมมือไปปิดปากอีกคนก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ

ผมมีทุกอย่างแล้ว ป๊าไม่ต้องซื้อมาให้ก็ได้” ผมพูดเสียงเรียบก่อนที่มือของตัวเองจะโดนป๊าคว้าไปจูบเบาๆ ริมฝีปากสีฝาดนั่นไล่จูบไปทั่วหลังมือก่อนที่จมูกโด่งจะกดลงมาที่หลังแหวนสีเงินแล้วจูบทับที่แหวนแผ่วเบา ผมเม้มปากแน่นก่อนจะหันไปสบตากับคนที่เคลื่อนกายมานอนหนุนตักเปลือยของผม เรือนผมสีเทาเข้มนั่นยังคงนุ่มและน่าสัมผัสเหมือนเดิม ผมใช้มือข้างที่ว่างลูบมันเบาๆ ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่ออีกคนยิ้มออกมาเช่นกัน

แล้วมีอะไรที่ป๊าให้หนูไม่ได้บ้างหืม?” ดวงตาน้ำตาลยังคงจ้องผมด้วยสายตาสื่อความหมาย ใจผมมันเต้นแรงขึ้นมาทันทีที่ริมฝีปากอิ่มละจากมือผมแต่เปลี่ยนมาประทับลงที่ข้อมือ ก่อนที่ร่างของอีกคนจะลุกขึ้นมาและผลักผมให้เอนลงไปนอนบนที่นอนนุ่ม

ความนุ่มของริมฝีปากที่ไล้ไปทั่วหน้าอกพร้อมกับมืออีกคนบีบเฟ้นไปทั่วร่างกาย ไม่มีจุดไหนที่อีกคนไม่ได้สัมผัสผม ทุกตารางนิ้วของร่างกายผมอีกคนรู้จักมันดีกว่าตัวผมเองซะอีก

อะ...อา..” เสียงหอบใจหายประสานกันเป็นจังหวะ แม้ไม่ได้อ่อนโยนแต่มันก็ไม่ได้รุนแรง ผมชอบนะร่างกายที่มีอะไรเหมือนๆ กัน ลมหายใจร้อนๆ ทุกการขับเคลื่อนที่อีกคนมอบให้มันเป็นไปด้วยความรู้สึกดีจนผมแทบจะเป็นบ้าตาย ยิ่งกว่าอยู่บนเมฆนุ่มๆ หรืออยู่บนเครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลกซะอีก
เพียงแค่ป๊าทำแบบนี้..

ชอบไหม?” เป็นคำถามที่ผมไม่อยากจะตอบซะด้วยซ้ำแต่ริมฝีปากของอีกคนที่แกล้งจูบไปทั่วใบหน้าโดยเลี่ยงไม่ให้โดนริมฝีปากของผมนั่นยิ่งทำให้ผมต้องรีบพยักหน้าด้วยความต้องการที่มี ผมเหมือนจะเห็นแววตาขี้เล่นของอีกคนเพียงชั่วครู่ ฟันซี่คมก็กัดลงมาที่ริมฝีปากล่างของผมอย่างเต็มแรง แม้มันจะเจ็บจนรู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือดแต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกแย่แต่อย่างใด
มันกลับทำให้ใจผมเต้นแรงมากกว่าเดิมซะด้วยซ้ำ..

--

ผมเกลียดเวลานี้มากที่สุด เวลาที่เราต้องจากกันยังไงละ
ป๊าอาจจะมาหาอีกทีวันเสาร์นะ ถ้าขาดเหลืออะไรก็โทรมารู้ไหม?” ผมมองอีกคนที่แต่งตัวช้าๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหาทั้งๆ ที่ตัวเองใส่เพียงกางเกงบ๊อกเซอร์ตัวเดียว

เดี๋ยวผมจัดเนกไทให้” ผมขยับเนกไทอีกคนที่มันเบี้ยวให้ตรงก่อนจะตบเบาๆ ไปทั่วหน้าอกกว้างก่อนจะถอยหลังออกมา แต่ไม่ทันที่จะได้ถอยมือยาวๆ อีกคนก็รวบเอวผมเข้าไปชิด ไม่กลัวว่าเสื้อสูทของตัวเองจะยับซะด้วยซ้ำ

ทำไมทำหน้าแบบนี้ละหืม?” อีกคนถามผมด้วยความเป็นห่วง ผมเม้มปากก่อนจะหันหน้าหนีไปทางอื่น

ก็วันนี้เพิ่งวันอาทิตย์.. กว่าป๊าจะหามาผม...” ผมเบะปากออกเล็กน้อยก่อนหันไปยิ้มให้อีกคน

คิดถึงป๊าหรอ?” อีกคนขยับเข้ามาชิดหูของผมก่อนจะกระซิบเบาๆ ทำเอาผมรู้สึกจักกะจี้ขึ้นมาทันที

ไม่บอก” ผมหัวเราะออกมาเมื่ออีกคนหรี่ตามองผมด้วยสายตาล้อเลียน

ถ้าบอกว่าคิดถึงป๊า เดี๋ยววันพุธป๊าอาจจะมาหาก็ได้นะ” ผมเบิกตาโตก่อนจะยกมือของตัวเองไปลูบแก้มของอีกคนเบาๆ

ป๊าไม่โกหกใช่ปะ?” ผมถามหยั่งเชิง

ก็..ถ้าคำพูดมันน่าฟังป๊าก็จะพิจารณา” ผมจ้องตาอีกคนก่อนจะกัดริมฝีปากตัวเองแน่น มือทั้งสองข้างของอีกคนที่รวบเอวผมไว้ก็ปล่อยออกมาก่อนจะใช้มันกุมหน้าผมทั้งสองข้าง

“..น้อง..แจ็คคิดถึงป๊ามาร์คมากเลยครับ..” พูดเองเขินเองผมอยากจะมุดดินหนีชะมัด

หึ..ขออีกคำนึงสิ คำที่หนูพูดตอนเราอยู่บนเตียงอะ” อีกคนพูดพร้อมกับรอยยิ้ม นิ้วโป้งของป๊าเกลี่ยมาที่ริมฝีปากของผมเบาๆ

“...หนู..คิดถึงป๊านะ...” พูดจบริมฝีปากของผมก็ถูกปิดทับด้วยริมฝีปากของอีกคน เนิ่นนานเท่าไหร่ที่เราแลกเปลี่ยนอากาศให้กันและกัน มือที่เคยประคองหน้าผมก็เลื่อนลงต่ำเรื่อยๆ แรงบีบเฟ้นไปทั่วนั่นทำเอาผมรู้สึกดีแทบบ้า แต่ทุกอย่างก็ต้องชะงักลงเมื่อริมฝีปากของคนตรงหน้าถูกถอนออกไปพร้อมกับมือที่เลื่อนจากข้างล่างขึ้นมาสู่ข้างบน นิ้วมือสวยเกลี่ยที่ปอยผมของผมเบาๆ

ป๊าไปก่อนนะ อย่าดื้อนะรู้ไหม?” ผมมองตามอีกคนตาละห้อยก่อนที่ประตูห้องจะปิดลงทิ้งให้ผมอยู่กับความเงียบเพียงแค่คนเดียว




ผมรู้สึกเสียใจ ผมกล้าพูดตรงนี้เลยนะว่าผมเสียใจเมื่อวันนี้คือวันที่ป๊าสัญญาว่าจะมา แต่ทันทีที่ผมเปิดประตูห้องเข้ามามันก็มีเพียงตุ๊กตาหมีตัวโตกว่าผมพร้อมกับกล่องของขวัญและการ์ดเพียง 1 ใบที่อยู่ตรงนั้น ใจความของมันก็คือ..ป๊าไม่มา

เฮ้อ..” ผมมองหมีนั่นด้วยสายตาว่างเปล่าก่อนจะหยิบกล่องของขวัญและเดินเลี่ยงไปทางห้องนอนแทน ผมเปิดกล่องมันขึ้นมาก็พบว่าเป็นนาฬิกาเรือนหรูที่ทำมาจากทองคำขาว มันเป็นสิ่งที่ผมเห็นแล้วมันไม่ได้น่ายินดีหรือดีใจเลยสักนิด..
เพราะสิ่งที่ผมต้องการจริงๆ ไม่ใช่สิ่งของแบบนี้...

หลังจากนั่งถอนหายใจที่เตียงได้เพียงแค่แป๊บเดียวก็เอากล่องนาฬิกาไปวางที่ชั้นหนังสือก่อนจะเดินออกห้องไปยังโซนห้องครัวเล็กๆ พอให้ทำอะไรกินได้ ผมไม่ได้สนใจว่าอยากกินอะไรแต่ตอนนี้ผมอยากดื่มเบียร์มากกว่า อย่างน้อยก็อยากลืมว่าวันนี้ป๊าผิดนัดยังไง..



กระป๋องที่ 1
กระป๋องที่ 3
.
... มันน่าจะเป็นกระป๋องสุดท้ายที่อยู่ในตู้แล้วที่อยู่ในมือผมตอนนี้ ภาพตรงหน้ามันพร่าเลือนไปหมด ทุกอย่างดูช้าลงมากกว่าปกติ ผมสะบัดหัวไล่ความมึนทิ้งไปก่อนจะโยนกระป๋องสุดท้ายลงเคาน์เตอร์ครัวอย่างไม่สนใจว่ามันจะกลิ้งไปตกที่ไหน สองเท้าของผมพาตัวเองเดินเซๆ มาที่โซฟากว้างก่อนจะหยิบมือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดูเวลาและทิ้งตัวลงนอนราบไปกับความยาวของโซฟา

02:11 AM.
เวลานี้คงเป็นเวลานอนหลับแล้วสินะ..ผมไม่รู้หรอกนะว่าวันนี้ป๊าต้องไปหาเด็กคนไหนบ้างหรือเปล่าแต่..ผมคิดถึงป๊า ผมไม่รู้ว่าตัวเองกดเลื่อนหาเบอร์ป๊าแล้วกดโทรออกไปตอนไหนแต่เสียงสัญญาณที่ดังยาวๆ ที่ดังออกมานั่นไม่ได้ทำให้ผมรีบกดวางแต่อย่างใด เสียงรอสายมันยาวและนานจนผมรู้สึกอยากจะหัวเราะออกมา
ตอนนี้..ป๊าอาจจะอยู่กับเด็กคนอื่นก็ได้นี่... ทั้งๆ ที่ผมก็รู้แต่ทำไมผมยังอยากจะโทรหาป๊าจังเลยนะ

(..แจ็ค....เจีย..เอ๋อ..หนู..ได้ยินป๊าไหม?) ผมสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะกดเปิดสปีคเกอร์โฟนแล้วทิ้งมันไว้บนหน้าอกตัวเอง

ได้ยิน..หนูได้ยินหมดเลย” ผมตอบเสียงเบาพร้อมกับหลับตาลงช้าๆ

(หนู..ป๊าไม่ค่อยได้ยินเสียงหนูเลย หนูอยู่ไหนครับ?) ปลายสายถามผมเสียงนุ่ม

ฮึก...ห้อง..หนูอยู่ห้อง” ผมตอบปลายสายทั้งน้ำตา ตอนนี้ผมไม่เข้าใจตัวเองซะด้วยซ้ำว่าตัวเองร้องไห้ทำไม

(หนูร้องไห้หรอ? ใครทำอะไร? ให้ป๊าไปหาไหม?) ปลายสายยังคงถามกลับมาด้วยน้ำเสียงโทนเดิม โทนที่ทำให้ผมตกหลุมรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ป๊า..มาหาหนูได้หรอ? ป๊าไม่ได้อยู่กับคนอื่นหรอ?” ผมถามอีกคนกลับไปด้วยน้ำเสียงยานคาง พยายามอย่างมากที่จะบังคับให้ตัวเองเป็นปกติแต่มันก็ยากเหลือเกิน

(หนูเมาหรอ? งั้นเดี๋ยวป๊าไปหารอแป๊บนะครับ) ไม่ทันที่ผมจะได้ตอบอะไรกลับไปอีกฝั่งก็ชิงตัดสายไปก่อน ผมหยิบมือถือตัวเองขึ้นมาก่อนจะโยนไปทิ้งไปไกลๆ ด้วยความรู้สึกเจ็บในใจ
วันนี้มันอาจจะเป็นวันสุดท้ายที่ผมกับป๊าจะได้อยู่ด้วยกันก็ได้... เพราะผมผิดสัญญาแล้ว



อ้อมกอดที่คุ้นเคยทำเอาผมเผลอบดเบียดตัวเข้าหา น้ำหอมกลิ่นคุ้นเคย ความนุ่มหยุ่นจากริมฝีปากที่เคยฉกชิง รวมทั้งลื้นร้อนๆ ที่ทำให้ผมแทบละลายคาเตียงนั่นมันเด่นชัดจนปล่อยตัวให้ไหลไปตามเกมที่อีกคนควบคุมอยู่ เสื้อผ้าที่หลุดหายไปทีละชิ้นไม่เร้าใจเท่ากับกระดุมทั้งแผงของป๊าขาดกระเด็นกระดอนไปทั่วห้องด้วยฝีมือของผมหรอก

อ่า..” ร่างกายของเราประสานกันอย่างลงตัวไม่ว่าจะเป็นด้านบนหรือด้านล่าง ความแรงที่ผมได้รับมันก็ไม่มีแผ่วเลยสักนิด เสียงหอบหายใจที่ดังอยู่ข้างๆ หูผมบ่งบอกเป็นอย่างดีว่าอีกคนมีอารมณ์ร่วงมากเท่าไหร่ เสียงหอบครางในลำคอของป๊าเมื่อของเหลวข้นถูกฉีดอัดเข้ามาข้างในตัวของผมมันทำให้ผมรู้สึกดีเมื่อได้ทำให้อีกคนพอใจด้วยร่างกายของตัวเอง

เสียงน่าอายยังคงดำเนินไปช้าๆ พร้อมกับเสียงของผมที่คอยเรียกชื่อป๊าซ้ำไปซ้ำมาอย่างไม่มีเบื่อ

ป๊า.ฮื้ออ..มาร์ค..ม..มาร์ค อา...ป๊า” ยิ่งเรียกชื่ออีกคนความรุนแรงก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผมที่แตะสวรรค์ไปสามครั้งติดก็ไม่เท่ากับป๊าที่เพิ่งไปถึงเพียงแค่ครั้งเดียว

อา..หนูอย่าขี้โกง อืมมม” ผมไม่อยากได้ยินอะไรทั้งนั้นนอกจากเสียงหอบครางเซ็กซี่ของป๊า ผมเลยเลือกที่จะก้มลงไปช่วงชิงริมฝีปากพร้อมกับขยับร่างกายอย่างใจนึก

อา..อา....”


ผมลืมตาตื่นขึ้นมาตอนเช้าก่อนจะหลับตาลงอีกครั้งเมื่อคิดได้ว่าเมื่อคืนมีคนมาที่ห้อง ผมรีบลุกขึ้นนั่งบนเตียงก่อนจะมองหาคนที่มาหาผมเมื่อคืนแต่ทั้งบนเตียงและในห้องมันว่างเปล่าไปหมด ใจผมหล่นวูบไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อคิดว่าป๊าน่าจะออกไปทำงานและทิ้งโน้ตให้ผมไว้ที่ไหนสักที่แน่ๆ

แกร๊ก..
มองหาใครหืม?” ผมบิกตาโตก่อนจะยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นป๊าเดินออกจากห้องน้ำมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวที่พันอยู่ที่เอวเพียงผืนเดียว รอยแดงที่หน้าอกป๊าลากยาวตั้งแต่ไหปลาร้าจนถึงซี่โครงซี่สุดท้ายนั่นทำเอาผมหน้าเห่อร้อนขึ้นมาทันที

ป..ป๊าใส่เสื้อก่อนไหม” ผมเสหน้าหลบไปทางอื่น

ทำไม..ใจเต้นหรอ?” ป๊าไม่พูดเปล่าแถมเดินเข้ามาหาผมก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ พร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

ม..ไม่ใช่สักหน่อย” ผมส่ายหน้าไปมาแต่ก็ไม่กล้ามองหน้าป๊าที่ห่างกันเพียงคืบกว่าๆ อยู่ดี

หึ.. เอาละ มาเคลียร์กันก่อน เมื่อคืนหนูเมาหรอ?” ป๊าถามเสียงนุ่มจนผมกล้าเงยหน้าไปสบตาอีกคน

อื้อ..”


แล้วก็โทรหาป๊า?”

อ่า..”


“..รู้ไหมป๊าบินจากปูซานมาเลยนะ ทิ้งงานประชุมวันนี้ไปเรียบร้อยแล้ว” เสียงเข้มนั่นทำเอาใจผมหล่นวูบ นี่ผมสร้างปัญหาให้ป๊าใช่ไหมเนี่ย

“..ผม..ขอโทษ” ผมพูดเสียงเบามากๆ

เอาละ..ไหนป๊าขอเหตุผลดีๆ หน่อยสิ” ป๊าถามพร้อมกับยกมือขึ้นมาเชยคางผมให้เงยหน้าไปสบตา

“..จะให้หนูบอกจริงหรอ?” ผมพูดเสียงอ้อน

จริง..ป๊าขอแบบความจริงนะ” ป๊าพูดทั้งรอยยิ้ม ผมใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจพูดในสิ่งที่ใจคิดมานานแล้ว

หนู..ไม่อยากได้อะไรจากป๊าแล้ว” ผมพูดเสียงเบาก่อนจะหลบตาอีกคนไปอีกทาง มือที่เคยเชยคางผมค่อยๆ ลดลงก่อนจะวางลงที่หน้าตักของตัวเอง

“...หนูหมายความว่าหนูไม่อยากอยู่แบบนี้แล้ว?” ป๊าพูดเสียงเรียบ

อื้อ..”

ป๊าให้หนูไม่พอหรอ? บ้าน? รถ? หนูอยากได้อะไรบอกป๊าสิ” ผมเงยหน้าขึ้นมองป๊าก่อนจะส่ายหน้าไปมา

ป๊าให้หนูหมดแล้ว” ผมบอกอีกคนพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ

“..ป๊าไม่มีเวลาให้ใช่ไหม?” อีกคนถามผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง แม้ว่ามันไม่ใช่รีแอคชั่นที่ผมคิดไว้แต่มันแปลกใจที่ป๊าดูจะหวงผมแปลกๆ

“..หนูไม่อยากได้อะไรแล้วจริงๆ แต่หนูต้องการเพียงอย่างเดียว” ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตาอีกคนด้วยสายตาจริงจัง

“...หนูต้องการอะไร บอกป๊ามาเลย” ผมเม้มปากแน่นเมื่อเห็นคิ้วเข้มขมวดกันแทบจะเป็นปม

หนูต้องการใจป๊า หนูไม่อยากได้อะไรอีกแล้ว หนูแค่อยากมีป๊าแค่คนเดียวได้ไหม...” พูดจบผมก็อดไม่ได้ที่จะลุ้นกับคำตอบ สิ่งที่ผมทำตอนนี้เหมือนกับว่าเป็นคำสารภาพรักกลายๆ

“...หมายถึงหนูอยากเป็นแฟนป๊า?” ป๊าพูดขึ้นขึ้นมาพร้อมกับขมวดคิ้วแน่น

อื้อ อยากเป็น..” ผมพูดเสียงเบา

เฮ้อ.. ก็เป็นเมียอยู่แล้วจะอยากเป็นแฟนไปทำไมหืม?” ป๊ายิ้มกว้างก่อนจะรวบตัวผมเข้าไปกอดแน่น

เดี๋ยวๆ ป๊าหนูไม่เข้าใจ” ผมดันตัวเองออกก่อนจะถามอีกคนด้วยความไม่แน่ใจ “เมียอะไร? ไม่เอาแบบนี้ดิหนูอยากเป็นแฟน แฟนที่เปิดเผยได้อะๆ” ผมงอแงใส่อีกคนก่อนจะดันอ้อมกอดที่พยายามจะรวบตัวผมไปกอดอีกครั้งออก

เจียเอ๋อ..ฟังป๊านะ ป๊าไม่มีใคร มีแค่เรา โอเคไหม? มีแค่เรา เราเป็นคนเดี๋ยวของป๊า” ทันทีที่ป๊าพูดจบผมก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะโดนอีกคนรวบตัวไปกอดแน่น พอสมองผมประมวลผลอะไรเสร็จหน้าผมก็เห่อร้อนขึ้นมาทันที

หมาย...หมายความว่าป๊ามีแค่หนู และหนูเป็นแฟนป๊าแล้วใช่..ไหมอะ” ผมถามอีกคนเสียงสั่นทั้งๆ ท่ยังโดยกอดแน่น

หนูไม่ได้เป็นแฟนป๊า แต่หนูเป็นเมียป๊าต่างหาก” ป๊าหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะผละออกแล้วชิงหอมแก้มผมแรงๆ ไปสองสามที

อื้อออ ป๊า ไม่เอาแล้วเหนื่อย” ไม่ทันที่ผมจะได้ทำอะไรร่างของผมทั้งร่างก็โดนอุ้มขึ้นมานั่งคร่อมตักกว้างแทบจะทันที

หนูเจียเอ๋อ ไหนทำแบบเมื่อคืนหน่อยสิครับ” ผมถลึงตากว้างก่อนจะตีเบาๆ ไปที่อกอีกคน

ป๊า!! ไม่เอาแล้วเหนื่อย!” ผมพยายามจะลงจากตักอีกคนแต่เอวของผมก็ถูกกอดแน่น

เมื่อคืนไม่เห็นจะเหนื่อยเลยเสร็จไปตั้งสามรอบเลยนะ” ตอนนี้หน้าผมยิ่งกว่าถ่านร้อนๆ ซะอีกให้ตายเถอะ ป๊า!! แม่ง! รู้งี้ไม่คุยเรื่องนี้แล้ว

ป๊า ไม่เอา! อือออออออ” เสียงของผมขาดหายไปอีกครั้งก่อนที่เสียงโวยวายนี้จะแทนที่ด้วยเสียงหอบคางกับเสียงน่าอายของเราสองคน

ให้ตายเถอะป๊าแม่ง...จะอึดเกินคนแล้ว!

-Talk-
ความแดมฮอตคือไรไม่มี มันแวบมาในหัวก็เลยแบบเอาวะไม่ฮอตช่างแม่งละลงๆไปเถอะ ก่อนที่จะเก็บไว้ละเขียนต่อไม่ได้ ให้มันลงกรุไปเหมือนเรื่องอื่นๆ 55555 ไม่มีความฟรี้กกิ้งฮอตใดๆทั้งสิ้น สิ่งที่อยากเขียนก็เลยเขียนไป นี่เราแก้รอบนึงนะตอนแรกม่านิดนึงก็เอ๊ะไม่เอาดีกว่า 555555555 เอาเป็นว่าไม่ฮอตแต่สมองมันแล่นเมื่อเห็นพิจ๋าเต้น sexy dance ค่ะ อห.ตายไปเร้ยแงงงงไม่ไหวมากหัวใจ TT


อยากหวีดหรืออยากแสดงความคิดเห็นติดแท็กนี้เอานะคะ 555555 #วูบวันช็อต

วันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

[#ฟิคพี่มัคของกากา] Innocent [CUT]




[#ฟิคพี่มัคของกากา] -OS- Innocent
CUT


"อื้อ..." เสียงครางเบาๆหลุดลอดมาจากริมฝีปากเล็กที่เม้มแน่น ผมกดจูบไปทั่วหน้ากดก่อนจะตวัดลิ้นหยอกล้อกับเม็ดทับทิมสีชมพูตรงหน้าด้วยความต้องการทั้งหมด มืออีกข้างก็ไม่วายที่จะสะกิดอีกข้างที่ว่าง เสียงครางเบาๆยังคงลอดออกมาจากริมฝีปากคนใต้ร่างอยู่เรื่อยๆ หลังจากที่หยอกล้อกับส่วนบนจนพอใจ มือทั้งสองข้างของผมก็เลื่อนมาดึงกางเกงขาสั้นของอีกคนลงช้าๆ พร้อมกับอันเดอร์แวร์ตัวจิ๋วออกไปพร้อมๆกัน ผมกวาดตามองคนใต้ร่างจนทั่วด้วยความรู้สึกอยากเต็มขั้น อยากจะจับแยกขาแล้วฝังร่างตัวเองเข้าไปมันซะตอนนี้แต่ก็ทำได้เพียงแค่คิด

"แจ็คสันห้ามพี่ไม่ได้แล้วนะ" ผมบอกกับอีกคนเบาๆ แจ็คสันกัดปากตัวเองก่อนจะเอียงหน้าซบหมอนหนุนด้วยใบหน้าที่แดงกล่ำ ผมจับขาอีกคนแยกออกกว้างก่อนจะแทรกตัวเข้าไปตรงกลาง มือของผมใช้ปรนเปรอให้อีกคนด้วยความเต็มใจ แท่งร้อนของคนตรงหน้าดูสะอาดสะอ้านพร้อมกับเรียวขาที่ขาวจนผมอดไม่ได้ที่จะฝังคมเขี้ยวของตัวเองลงไป

"อ๊ะ...อา.." ยิ่มผมกดจูบตามต้นขาข้างในแรงมากเท่าไหร่เสียงครางของแจ็คสันก็ดังมากขึ้นเท่านั้น ผมตัดสินใจผละปากตัวเองออกมาเมื่อพื้นที่ตามขาด้านในของอีกคนเต็มไปด้วยรอยแดงเพื่อเปลี่ยนมาครอบริมฝีปากลงกับแท่งร้อนของคนใต้ร่าง เสียงหวานหวีดร้องขึ้นมาแทบทันทีที่มันเข้าไปข้างในปากผมจนสุดลำ ผมขยับเข้าออกเป็นจังหวะพร้อมกับใช้มือเขี่ยเม็ดทับทิมบนหน้าอกอีกคนเพียงไม่นาน น้ำสีขาวขุ่นก็ถูกพ่นออกมาพร้อมกับเสียงครางจากริมฝีปากของแจ็คสัน ผมรีบคายน้ำรักอีกคนกองไว้บนท้องของเจ้าตัว

"อื้อ...ให้น้องทำให้ไหม?" แจ็คสันผงกหัวขึ้นมามองผมเมื่อเห็นว่าผมยังไม่ปลดปล่อย ผมส่ายหน้าเบาๆก่อนจะจับขาซ้ายอีกคนพาดมาที่ไหล่ของผมพร้อมกับดันขาอีกข้างแยกออกกว้าง

"ถ้าเจ็บก็บอก อย่าฝืนตัวเองนะ" มันแย่ตรงที่ครั้งแรกของผมกับแจ็คสันไม่ได้มีทั้งถุงยางและเจลหล่อลื่น ผมไม่เคยคิดว่าเราจะมีอะไรกันไวขนาดนี้.. ทั้งๆที่ผมสาบ่นกับตัวเองไว้แล้วว่าถ้าน้องยังอายุไม่ถึง 20 จะไม่ล่วงเกินเด็ดขาด

ผมปาดน้ำรักที่ผมได้คายทิ้งไว้มาป้ายกับช่องทางข้างหลังอีกคน พยายามที่จะถูนิ้ววนไปมาก่อนจะแทรกลงไปช้าๆ ความฝืดเคืองที่ได้รับทำเอาผมใจเต้นแรงขึ้นมา ใบหน้าของแจ็คสันหลับตาปี๋พร้อมกับปากที่เม้มแน่น

"เจ็บไหม?" ผมถามด้วยความเป็นห่วง ผมยอมเลิกกลางคันเลยก็ได้ถ้าอีกคนเจ็บแต่แจ็คสันกลับส่ายหน้าแรงๆเป็นคำตอบ

"น้องไหว.." ให้ตายเหอะ ยิ่งพูดทั้งๆที่ตัวเองกัดปากแน่นขนาดนี้ยิ่งทำให้ผมอยากจะจับอีกคนเข้ามากระแทกแรงๆให้สมกับคำตอบนั่นจริงๆ ผมค่อยๆชักนิ้วเข้าออกช้าๆเมื่อรู้สึกว่าอีกคนปรับร่างกายได้ก็แทรกนิ้วที่สองและสามตามเข้าไป

อาจจะใช้เวลามากหน่อยกับการเตรียมช่องทางให้อีกคน แต่ถ้ามันทำให้แจ็คสันไม่เจ็บมากผมก็ยอมอดทนที่จะทำ

"โอเคแล้ว..มาร์คเข้ามาเลยนะ.." เสียงแหบกระเส่านั้นทำเอาผมใจกระตุก ผมรีบดึงนิ้วทั้งสามนิ้วตัวเองออกก่อนจะนำแกนกายของตัวเองไปจ่อช่องทางพร้อมกับกดส่วนหัวมันเข้าไปช้าๆ

"อ่า...โทษทีพี่ไม่มีถุงยาง..อื้ม..." ผมดันมันเข้าไปเรื่อยๆจนสุดทาง ช่องทางร้อนบีบรัดแน่นจนผมแทบขยับไม่ได้ มือเรียวของผมลูบไล้ไปตามร่างกายอีกคนเพื่อบิ้วท์ให้มีอารมณ์ร่วมกันเจ็บ และแจ็คสันเองก็ให้ความร่วมมือกับมันเป็นอย่างดี

"อ๊า...! มาร์ค..อื้อ... น้อง..น้อง...อื้อออ" เมื่อช่องทางอีกคนปรับตัวได้ผมก็ค่อยๆดึงความเป็นชายตัวเองออกมาช้าๆจนเกือบสุดแล้วกระแทกเข้าไปใหม่คราวนี้มันลื่นและไม่เสียดจนเกินไปแล้วแต่ความคับแน่นก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

"มัน อึก.. ทำไมหืม..อ่า..." ผมครางทุ้มต่ำในลำคอตัวเองก่อนจะแยกขาทั้งสองข้างแบะกว้างพร้อมกับขยับเข้าออกไวขึ้น แกนกายเล็กที่หดลงไปเริ่มแข็งตัวขึ้นมาอีกครั้ง ร่างของแจ็คสันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงพร้อมกับดวงตากลมฉ่ำปรือที่จ้องผมไม่วางตา ริมฝีปากสีสดลอยเด่นจนผมอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปฉวยจูบไวๆบนริมฝีปากคนตรงหน้า

"น้องเสียว..อื้ออออออ" คำพูดน่าอายนั่นกลับเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้ผมรู้สึกมากกว่าเดิม ผมจับอีกคนพลิกให้นอนคว่ำๆทั้งๆที่แกนกายที่สอดประสานอยู่ไม่หลุดออกจากกัน ผมจัดการช้อนสะโพกอีกคนโก่งขึนมาพร้อมกับดันให้ใบหน้าอีกคนซบลงบนหมอนนิ่ม จัดการสวนแกนกายเข้าออกช่องทางด้วยความเร็วตามแรงอารมณ์ที่มี เสียงน่าอายมันดังขึ้นเรื่อยๆแข่งกับเสียงหวีดครางของคนใต้ร่างและทั้งสองเสียงนี้มันกลบเสียงซีรี่ย์เสียสนิท

เสียงหอบหายใจของผมกับเสียงครางของอีกอีกคนสอดประสานเป็นจังหวะเดียวกัน ผมมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลายอย่างในหัวของตัวเอง ร่างกายอีกคนทีมีทุกอย่างเหมือนกับผมมันเร้าอารมณ์เสียจนไม่อยากให้ตัวเองไปแตะสวรรค์ไวๆ ผมรั้งคออีกคนขึ้นมารับจูบจากผม ริมฝีปากนิ่มหยุ่นนั้นคงหอมหวานเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ผมพลิกอีกคนให้นอนหงายอีกครั้งเมื่อรู้ว่าใกล้ถึงแล้ว ผมจัดการแยกขาอีกคนออกกว้างพร้อมกับกระแทกแกนกายดข้าออกช่องทางรัวๆ มือเล็กจับแกนกายตัวเองขยับขึ้นลงพร้อมกับผมที่ขยับเข้าออกช่องทางสีสด ผมก้มลงไปจูบริมฝีปากอีกคนก่อนจะไล่จูบซับไปตามพวงแกัมใส อดไม่ได้ที่จะฝากรอยทิ้งไปตามลำคอขาวและบนเนินอกอีกคน

"พี่..อ๊า..จะถึงแล้ว" ผมจับเอวอีกคนแน่นพร้อมกับสวนสะโพกเข้าออกช่องทางด้วยแรงทั้งหมดที่มี ก่อนจะถึงปลายทางผมจะต้องดึงออกมาแตกข้างนอกเพราะไม่ได้ใส่ถุงยาง แต่เหมือนอีกคนไม่รู้ว่าผมจะออกมาแตกข้างนอก ขาเรียวก็เอี่ยวเอวผมไว้แน่น

"อื้ออออ" ตรงใต้ร่างของผมไปถึงปลายทางก่อนผมจะถามไปติดๆ ทั้งๆที่จะดึงออกมาแตกข้างนอกกลับแตกเข้าไปข้างในตัวของแจ็คสันโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะขาอีกคนที่เกี่ยวเอวผมไว้แน่นเลยไม่สามารถที่จะดึงตัวเองออกมาได้ทัน

"อ่า..พี่ขอโทษเดี๋ยวพี่พาไปล้างตัวนะ" ผมที่ยังฝังตัวเองอยู่ข้างในช่องทางสีสดรีบเอ่ยบอกแจ็คสันทันที เพราะดูเจ้าตัวจะค่อนข้างเหนื่อยแถมผมยังแตกข้างในช่องทางอีก

"อื้อ..." เรียวขาอีกคนที่คลายออกทำให้ผมได้ค่อยๆถอนแกนกายตัวเองออกมาช้าๆ น้ำสีขาวขุ่นที่ไหลออกมาจากช่องทางทำเอาผมใจเต้นแรงอีกครั้ง

ให้ตายเถอะ... อยากทำอีกรอบจังวะ....



-Talk- ฝากกลับไปอ่านต่อแล้วคอมเม้นต์ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2560

[#ไม่ใช่เพื่อนมส] Chapter 1 [CUT]




Chapter 1


CUT


ลิ้นร้อนๆ ของอีกฝ่ายไล้ไปตามลำคอเลื่อนลงไปถึงตุ่มไต ร่างผมกระตุกเกร็งทันทีที่ลิ้นร้อนปาดไปโดนอย่างจังฟันคมขบเบาๆ ก่อนจะดูดดึงเหมือนกับลูกอมแสนหวาน มือไม่รักดีของผมขยุ้มเส้นผมคนตรงหน้าแรงๆ พลางกดลงให้หน้าจมลงไปกับอก ร่างกายผมรู้สึกวาบหวามไปหมด มืออีกคนลูบไปตามต้นขาก่อนจะแทรกเข้าไปในขอบกางเกงล้วงจับแกนกายของผมที่ตั้งโด่เคารพธงชาติไม่เป็นเวลา ให้ตายเหอะร้อนเป็นบ้าเลยวะ


“ไม่..อ่า..” ผมครางในลำคอเมื่อนิ้วเย็นเขี่ยหัวมันเบาๆ แถมไม่พอยังบีบให้เสียวเล่นอีก จะเก่งไปละสัส


“ทำไมหืม?” เสียงคุ้นหู เสียงที่ผมไม่ค่อยได้ยินแต่จำติดตรึงว่าคือเสียงของใคร


“ไม่..เอาออกไป อึก...” ผมครางเสียงกระเส่าเมื่ออีกคนบนร่างผมขบบนต้นคอผมแรงๆ ก่อนจะดูดดึง หวังว่าพรุ่งนี้มันจะไม่มีรอยหรอกนะ..


“เอาออกทำไมมึงยังไม่หายอยากนะ” ผมส่ายหน้าพัลวันเมื่ออีกผ่านสอดนิ้วเข้ามาในปากของผมพลางเขี่ยลิ้นเล่นไปมา จะบ้าตายเหมือนผมละลายลงไปกับเตียงนุ่มๆ นี่เลยวะ


“อึก..อื้อออ อา..” มืออีกข้างของมันก็ยังไม่วายยุ่งอยู่กับแกนกายของผม แต่ที่กระชากสติของผมกลับมาคือมือของมันที่เลื่อนลงไปที่ทางข้างหลัง


“จุ๊ๆ ..เจ็บนิดหน่อยนะ” ผมลืมตาโพล่งก่อนจะยกเท้าถีบคนตรงหน้าทันที


โครม!


“แฮกๆ.. ไม่เอาเว้ย ออกไปเลยนะ” ผมยกมือขึ้นเช็ดริมฝีปากพลางมองอีกคนที่ที่กึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง


“ไอ้เหี้ยยันมาได้ กลัวไรก็แค่ช่วยมึงแฟร์ๆ”


“แฟร์พ่อมึงดิ” ผมก้มมองตัวเองก่อนจะพบว่ามีเพียงกางเกงในที่ร่นลงมากับมันที่ยังมีกางเกงยีนใส่เหมือนเดิม ผมดึงกางเกงชั้นในขึ้นมาใส่ก่อนจะจ้องหน้ามันกลับ แม้ภาพจะเบลอๆ สมองผมจะประมวลผลช้าแต่นิ้วมือที่ไหลลงไปข้างหลังผมจำสัมผัสได้แม่น แม่งขนลุกเลยจากกำลังได้ที่ต้องหยุดลง


“กูอุตส่าห์ช่วยมึงนะ ขับรถให้ทั้งๆ ที่มึงกวนกูตลอดเนี่ย ทนมาถึงห้องได้นี่ดีแค่ไหนละห้ะ แม่ง..” ผมกุมหัวก่อนคิดทบทวนไปถึงบนรถอีกที... ใช่ผมกับมันจูบกันหลังจากนั้นแม่ง..


“กวนเหี้ยไร ไม่ได้กวนเว้ย” มันมองหน้าผมนิ่งๆ ก่อนจะถอนหายใจหนักๆ


“มึงทำกูเกือบรถลอยขึ้นฟุตบาทหลายครั้งละนะ กวนอยู่ได้ จูบกูอยู่ได้ ขะ...” ผมรีบลุกขึ้นไปปิดปากมันด้วยมือทันที โอ๊ยกูเปล่าโว้ย แม่งงงง!


“ไม่จริงมึงอย่าโม้ อย่าพูดพอเลย” ผมปฏิเสธไปถึงแม้ว่าสิ่งที่มันพูดคือเรื่องจริงก็เหอะ ผมถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อลิ้นชื้นเลียตรงฝ่ามือผม ผมรีบชักมือกลับทันที เดี๋ยวอารมณ์เตลิดอีกยิ่งจุดง่ายๆ อยู่


“กลัวไร? ไม่ยอมรับความจริง?” มันยักคิ้วก่อนจะยื่นหน้ามาใกล้ผม ผมจ้องหน้ามันกลับอย่างโกรธๆ


“กูไม่ได้กลัว” ผมพูดขึ้นมาด้วยท่าทางที่ไม่พอใจ อะไรใครกลัวเหอะ ระดับผมไม่กลัวหรอก


“งั้นมาลองกันซักตั้ง” สิ้นเสียงมันผมไม่ทันได้ตอบโต้อะไรออกไปมือเรียวก็ผลักผมลงกับเตียงทันทีก่อนจะขึ้นคร่อมตัวผมเอาไว้ ให้ตายเหอะ ผมไม่มีทางลืมคืนนี้แน่ๆ เพราะผมก็จะไม่แพ้มันเหมือนกัน



-Talk-
กลับไปอ่านต่อที่เด็กดีด้วยนะคะ ^^ #ไม่ใช่เพื่อนมส

[#ฟิคป๋ามาร์ค] Chaper 21 [CUT]



Chapter 21


CUT


ริมฝีปากพี่มาร์คทาบทับลงมาอีกครั้ง ผมเปิดปากรับอย่างไม่เขินอายลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามาพร้อมกับกวาดต้อนไปทั่วปากของผมตอนนี้กลับทำให้สมองผมมันหยุดคิดทุกอย่าง มันว่างเปล่าความรู้สึกตอนนี้มีเพียงแค่อยากทำตามใจต้องการ พี่มาร์คขบริมฝีปากผมเบาๆ ก่อนจะกัดปากล่างแล้วดึงมันอย่างอ้อยอิ่ง ดวงตาสีรัตติกาลทำเอาผมหลงใหลมันอีกครั้ง ริมฝีปากสวยได้รูปกดจูบลงมาที่ปากผมอีกครั้งก่อนจะไล่ริมฝีปากไปตามสันกรามและขบเม้มติ่งหูผมอย่างไม่นึกรังเกียจ มือของผมค่อยๆ เลิกเสื้อคนตรงหน้าขึ้นทีละนิดสัมผัสกับหน้าท้องที่แอบมีกล้ามนิดหน่อยนั้นขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างน่าหลงใหล ความเสียวซ่านที่พี่มาร์คมอบให้เพียงแค่ริมฝีปากจรดกับยอดอกของผมผ่านเสื้อสีเทาตัวบางก็แทบทำให้ผมตื่นตัวขึ้นมาทันที

พ..พี่มาร์ค” เสียงขาดๆ หายๆ จากปากของผมมันดังขึ้นทุกครั้งที่พี่มาร์คลากเรียวลิ้นผ่านยอดอกที่แข็งเป็นไตเพราะแรงอารมณ์ มือของผมที่เคยคิดจะถอดเสื้ออีกคนก็โดนพี่มาร์คจับมันขึ้นมาคล้องคอตัวพี่มาร์คเอง

มีอารมณ์แล้วหรอเรานะ” พี่มาร์คพูดพร้อมกับสบตาผมไปด้วย ผมเบนหน้าหนีสายตาร้อนแรงนั่นก่อนจะหลับตาลงเมื่อกางเกงขาสั้นถูกอีกคนจับถอดออกพร้อมกับกางเกงชั้นใน มือเรียวค่อยๆ จับแกนกายของผมขึ้นมาก่อนจะรูดรั้งมันช้าๆ ฝ่ามืออุ่นร้อนค่อยๆ ปรนเปรอให้ผมพร้อมกับริมฝีปากที่กดจูบไปทั่วต้นขาด้านในที่โดนแยกออกโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว

ด..เดี๋ยว! อื้อ..” ผมเกร็งตัวแน่นเมื่อพี่มาร์คครอบปากลงกับแกนกายของผมเอง โพรงปากอุ่นๆ ยิ่งทำให้ผมเสียวจนต้องระบายมันกับผ้าปูที่นอน แท่งร้อนของผมมันเข้าออกโพรงปากอุ่นๆ เพียงไม่กี่ทีน้ำรักที่ถูกสะสมมานานก็พุ่งออกมาเมื่อถึงจุดหมาย

น่าอายชะมัดที่ผมถึงเร็วขนาดนี้

อื้อ พี่มาร์คห้ามกินนะ” ผมรีบห้ามอีกคนเมื่อเห็นว่าพี่มาร์คไม่ได้คายมันออกมา พี่มาร์คส่ายหน้าช้าๆ ก่อนจะแยกขาผมออกอีกครั้งแล้วคายน้ำรักผมออกไปป้ายช่องทางข้างหลังด้วยความรวดเร็ว

พี่จะทำเบาๆ” ผมพยักหน้ารับก่อนจะรู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมที่แทรกเข้ามาข้างหลัง นิ้วเรียวของพี่มาร์คที่แทรกเข้ามานั้นมันทำให้ผมรู้สึกเสียดๆ เนื่องจากไม่ได้ทำกันมานาน ถ้านับจากครั้งที่แล้วก็นานเต็มที..

อ่า..อ๊ะ..” ผมตกใจเล็กน้อยที่อีกคนแทรกนิ้วที่สองและที่สามเข้ามาแทบจะทันที เสียงหอบหายใจหนักๆ จากผมกับเสียงครางทุ้มต่ำในลำคออีกคนทุกครั้งที่ผมเผลอตอดรัดนิ้วเรียวของพี่มาร์คแน่น มันผสมกันจนแทบจะเป็นจังหวะเดียวกัน นิ้วเรียวขยับเข้าออกช่องทางข้างหลังของผมช้าๆ ก่อนจะมันจะโดนเข้ากับบางจุดจนทำให้ผมถึงกับกระตุกตัวเกร็งทันที

อ๊ะ!” พี่มาร์คยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะก้มลงมาฉกจูบบนริมฝีปากผมแรงๆ

ตรงนี้ใช่ไหมหืม” นิ้วเรียวยังคงย้ำเข้าออกซ้ำๆ จนทำให้ผมแทบจะบ้าตายกับความรู้สึกดีที่มันมากขึ้นเรื่อยๆ ตามจังหวะมือของอีกคนจนแท่งร้อนของผมมันตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง พี่มาร์คดึงนิ้วออกก่อนจะดึงแขนผมให้ลุกขึ้นมานั่งบนเตียง

ช่วยพี่หน่อยได้ไหม?” พี่มาร์คปลดกางเกงตัวเองลงเผยให้เห็นแท่งร้อนของตัวเองที่ตื่นเต็มที่ ผมลอบมองมันก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก

ผมคิดผิดหรือคิดถูกที่ให้พี่มาร์คช่วยลบรอยกันนะ

ฮึบ...” ผมสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอดก่อนจะเม้มปากแน่น ผมค่อยๆ เอื้อมมือออกไปจับมันเบาๆ ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าแม้มันจะมีขนาดใหญ่แค่ไหนก็ตามผมเคยรับมันเข้าไปแล้ว ผมตัดสินใจขยับเข้าไปใกล้ก่อนจะนำมันเข้าปากช้าๆ

อื้มมมมม ซี๊ดด..” ความคับแน่นเต็มปากแทบทำให้ผมจุกหายใจไม่ออก ไม่รู้ว่าของพี่มาร์คจะใหญ่ขนาดนี้ รสชาติแปลกๆ ที่ไม่เคยได้รับทำให้ผมนิ่งไปนิดก่อนจะค่อยๆ ใช้ปากตัวเองรูดรั้งแท่งร้อนตรงหน้าขึ้นลงช้าๆ มือทั้งสองข้างก็ช่วยประคองไม่ให้มันหลุดออกจากปากตัวเอง เสียงครางจากพี่มาร์คยิ่งทำให้ผมรู้สึกอยากจะทำให้มันดีกว่านี้ อยากทำให้พี่มาร์คมีความสุข

เร็วกว่านี้ได้ไหมหืม” ผมขยับปากเข้าออกเร็วขึ้นพยายามที่จะไม่ให้ฟันโดนของพี่มาร์คแต่ก็มีบ้างที่พลาดไปครูดโดนให้เสียวเล่นๆ

อ่า..อ่า..พอก่อนเดี๋ยวพี่ทำเอง” ผมค่อยๆ คายมันออกมาช้าๆ ก่อนจะเช็ดปากตัวเองกับหลังมือ รสชาติแปลกๆ มันยังคงคิดอยู่ที่ปลายลิ้นผมไม่หาย พี่มาร์คดึงผมเข้าไปจูบอีกครั้งคราวนี้จูบเพียงแค่เบาๆ ที่ริมฝีปากและผละออกไป

“...” ผมเม้มปากแน่นมองอีกคนด้วยความรู้สึกตื่นเต้น เพียงแค่ครู่เดียวที่เราสบตากันผมก็ถูกพี่มาร์คดันให้ลงไปนอนราบกับเตียงกว้างก่อนจะได้พูดอะไรออกไป

มีอะไรหืม?” พี่มาร์คถามผมขึ้นมา ก่อนจะกดจูบลงบนแก้มแล้วไล่จมูกโด่งๆ นั่นไปทั่วแก้มผม มือที่อยู่ไม่นิ่งก็บีบเฟ้นไปทั่วตัวจนผมบิดตัวเพราะความเสียวที่ได้รับ พี่มาร์คแทรกตัวเข้ามาตรงกลางระหว่างขาผมทั้งสองข้างพร้อมกับส่วนกลางลำตัวของเราที่แนบชิดสนิทไปด้วยกันก่อนจะเคลื่อนตัวลงต่ำอีกนิดให้แท่งร้อนได้ถูไถไปกับช่องทางข้างหลัง

ผม..” ผมหอบหายใจหนักขึ้นเมื่อรู้สึกถึงบางอย่างที่จ่ออยู่ที่ช่องทางของตัวเอง พี่มาร์คค่อยๆ กดส่วนหัวมันเข้ามาช้าๆ ผมพยายามผ่อนคลายให้ได้มากที่สุดเพื่ออีกคนและเพื่อตัวเองไม่ให้เจ็บกับความใหญ่โตของมัน

อ่า..แน่นชิบ” ผมรีบยกมือขึ้นไปเกี่ยวคออีกคนให้ลงมาซบไหล่ผมทันที

ผม.. ผมรักพี่นะ” ผมพูดจบแท่งร้อนของอีกคนก็ถูกดันเข้ามาจนมิดพอดี พี่มาร์คพยายามที่ผละออกจากซอกคอของผมแต่ผมกลับกอดอีกคนไว้แน่นไม่ยอมให้โผล่หัวขึ้นมา ผมอายเกินกว่าที่จะให้พี่มาร์คเห็นหน้าของผมตอนนี้

เจียเอ๋อ..เรานี่มันขี้โกงจริงๆ ” พี่มาร์คพูดมันข้างหูผมเบาๆ ก่อนจะเริ่มขยับเอวช้าๆ โดยที่ไม่บอกผมล่วงหน้าสักนิด มือที่กอดอีกคนไว้คลายออกโดยไม่รู้ตัว รู้อีกทีก็เมื่อสะโพกอีกคนสอบเข้าออกช่องทางผมหนักๆ พร้อมกับมือแกร่งที่ประคองใบหน้าผมไว้ แววตาของพี่มาร์คตอนนี้มันเต็มไปด้วยความอ่อนโยน สัมผัสที่ได้รับมันทั้งนุ่มนวลและหอมหวาน มากกว่าครั้งก่อน ดวงตาที่จ้องลึกเข้ามาเหมือนจะบอกอะไรบางอย่างกับผม

อ่า..พี่มาร์คอื้อ..เร็ว..เร็วไปแล้ว” ผมจิกมืออีกคนที่ยังกุมแก้มผมไว้แน่น เสียงหอบกระเส่าจากพี่มาร์คยังคงดังเบาๆ อยู่ในลำคอ

พี่ก็รักเรา อ่า.. มากที่สุด” พูดจบพี่มาร์คก็ประกบปากลงมา ความรู้สึกที่ผมเผชิญอยู่ตอนนี้มันผสมปนเปกันไปกันหมด ทั้งเสียวซ่าน อบอุ่น ร้อนแรง และตอนนี้ผมกลับใจเต้นแรงเพียงเพราะคำบอกรักเบาๆ จากปากพี่มาร์ค

สะโพกอีกคนสอบเข้าออกทุกครั้งที่เราเปลี่ยนท่า ตอนนี้ใบหน้าผมแนบไปกับหมอนนิ่ม แรงที่ส่งมาจากด้านหลังทำเอาผมตัวสั่นคลอนไปหมด จำไม่ได้แล้วว่าครั้งนี้ผมปลดปล่อยเป็นครั้งที่เท่าไหร่

อื้อ..อ่า.. จะเสร็จแล้วนะ” เสียงพี่มาร์คพูดขึ้นมาก่อนที่น้ำรักอุ่นๆ จะพุ่งเข้ามาในตัวผมช้าๆ ความอุ่นร้อนที่ฉีดเข้ามาทำให้ผมรู้สึกเหนอะหนะที่ช่องทางและขาเป็นพี่สุด พี่มาร์คค่อยๆ ถอนแกนกายออกไปก่อนจะพลิกตัวผมให้นอนหงายอีกครั้ง


-Talk-
กลับไปอ่านที่เด็กดีอีกนิดนะคะ ♡